แคลเซียมเป็นสารอาหารที่สำคัญสำหรับการเจริญเติบโตและพัฒนาของเซลล์และกระดูกของลูกน้อย และยังมีผลดีต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาของระบบประสาทและการทำงานของกล้ามเนื้อในลูกน้อยด้วย
นอกจากนี้ แคลเซียมยังช่วยในการสร้างฟันและกระดูกแข็งแรง รวมถึงเพิ่มความแข็งแรงของระบบภูมิคุ้มกันในลูกน้อย และลดความเสี่ยงของภาวะคลื่นไส้และภาวะโลหิตจางในแม่หญิงที่อายุครรภ์
การบริโภคแคลเซียมเพียงพอสำหรับแม่ที่อายุครรภ์จะช่วยให้ลูกน้อยมีสุขภาพแข็งแรงและพัฒนาการได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นแม่ควรรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูง เช่น นมและผลไม้เน้นเนื้อเนียน และสามารถรับประทานอาหารเสริมแคลเซียมที่แพทย์หรือเภสัชกรแนะนำได้ด้วย
อาหารอะไรที่มีแคลเซียม
อาหารที่มีแคลเซียมสูง ๆ ประกอบไปด้วย:
- นมและผลิตภัณฑ์จากนม เช่น นมข้น, นมเปรี้ยว, ชีส, โยเกิร์ต
- ผักใบเขียวและผักเหลือง เช่น ผักกาดขาว, ผักกาดแก้ว, ผักขึ้นช่าย, ผักบุ้งจีน, ผักกระเฉด
- ปลาและอาหารทะเล เช่น ปลาแซลมอน, ปลาทู, กุ้ง, หอยนางรม
- เมล็ดและเมล็ดธัญพืช เช่น ถั่วเหลือง, เมล็ดทานตะวัน, ชาวดอกไม้, ข้าวโพด
- อาหารเสริมแคลเซียม เช่น น้ำมะพร้าว, น้ำเต้าหู้, แคลเซียมซิตราเต็มเลเที่ยม, แคลเซียมคาร์บอเนต
การบริโภคอาหารที่มีแคลเซียมสูงสามารถช่วยสร้างกระดูกแข็งแรง และช่วยในการลดความเสี่ยงของภาวะคลื่นไส้และภาวะโลหิตจางในแม่หญิงที่อายุครรภ์ได้ อย่างไรก็ตาม การบริโภคอาหารที่มีแคลเซียมสูงเกินไปอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพได้ ดังนั้นควรรับประทานอย่างเหมาะสมและสมดุลกับอาหารอื่นๆ ในปริมาณที่เหมาะสมและเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
ปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน
ปริมาณแคลเซียมที่แนะนำให้ได้รับต่อวันขึ้นอยู่กับช่วงอายุและสภาวะทางสุขภาพของแต่ละบุคคล ดังนั้น ข้อมูลด้านล่างเป็นปริมาณแคลเซียมที่แนะนำให้ได้รับต่อวันสำหรับผู้ใหญ่ทั่วไป:
- ผู้ใหญ่ชายและหญิงอายุ 19-50 ปี: 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน
- ผู้หญิงที่อายุมากกว่า 50 ปีและผู้ชายที่อายุมากกว่า 70 ปี: 1,200 มิลลิกรัมต่อวัน
- ผู้หญิงที่อายุมากกว่า 70 ปีและผู้ชายที่อายุมากกว่า 50 ปี: 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน
อย่างไรก็ตาม หากมีภาวะโรคหรือปัจจัยเสี่ยงอื่นที่ส่งผลต่อการดูแลสุขภาพ อาจต้องปรับปรุงปริมาณแคลเซียมที่ได้รับต่อวันให้เหมาะสมและเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย