สาเหตุของการเกิดตกขาวระหว่างตั้งครรภ์
ในระหว่างตั้งครรภ์ ปากมดลูกและผนังช่องคลอดนั้นจะนุ่มขึ้น และผลิตตกขาวออกมามากขึ้น เพื่อป้องกันการติดเชื้อลุกลามเข้าสู่มดลูก ตกขาวจะช่วยปกป้องลูกน้อยให้ปลอดภัย ในช่วงสัปดาห์ท้ายก่อนคลอด หัวของทารกจะกดทับบริเวณปากมดลูก น้ำหนักกดทับทำให้มีตกขาวเพิ่มขึ้น ลักษณะเป็นมูกมากขึ้นและมีกลิ่นคล้ายกับเลือดปนอยู่ด้วย ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนว่าใกล้เวลาคลอดแล้ว
หากเห็นว่ามีเลือดออกทางช่องคลอด ไม่ว่าจะเป็นช่วงใดในระหว่างตั้งครรภ์ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ เพื่อตรวจเช็คเพื่อความปลอดภัย หากมีปริมาณเลือดออกมากเกินไปอาจเป็นสัญญาณว่าเกิดโรคแทรกซ้อนที่ร้ายแรง เป็นอันตราย และอาจเป็น สาเหตุของการแท้ง ได้
ลักษณะของตกขาวของแต่ละคนจะแตกต่างกัน การตกขาวแบบปกติมีลักษณะเป็นมูกใส อาจจะขุ่นคล้ายแป้งเปียกก็ได้ ปริมาณของตกขาวแต่ละวันจะน้อยหรือมากขึ้นกับฮอร์โมนของผู้หญิงแต่ละคน ลักษณะที่ผิดปกติมักมีอาการคันที่อวัยวะเพศและ คันช่องคลอด สีของตกขาวเปลี่ยนไป เช่น เป็นสีเหลือง สีเทา สีเขียว สีแดง มีฟอง กลิ่นเหมือนนมบูด เหม็นเปรี้ยว เหม็นคาว อาจมีอาการแสบขณะปัสสาวะ และปัสสาวะขัดด้วย
วิธีป้องกันและแก้ปัญหาตกขาวผิดปกติสำหรับผู้หญิงตั้งครรภ์ในเบื้องต้น มีดังนี้
- รักษาความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศ โดยการล้างด้วยน้ำเปล่า ไม่ควรสวนล้างภายในช่องคลอด
- ใช้กระดาษทิชชูซับให้แห้งหลังเข้าห้องน้ำทุกครั้ง
- ไม่สวมชุดชั้นในที่รัดแน่นเกินไป เลือกชุดชั้นในทำจากเนื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี
- ถ้ามีอาการตกขาวมาก ควรใช้แผ่นอนามัยช่วยดูดซับและเปลี่ยนใหม่ทุก ๆ 2-3 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้เกิดความอับชื้น
- ไม่ควรใช้แผ่นอนามัยแบบสอด เพราะจะทำให้เกิดการหมักหมม ตกขาวออกมามากขึ้น
- เมื่อพบว่าตกขาวมีลักษณะผิดปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์จะได้ทำการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ
- ตกขาวผิดปกติเป็นผลมาจากการติดเชื้อบางอย่าง แพทย์อาจต้องให้ยารักษาแก่คู่สมรสด้วย เพราะเชื้อบางอย่างติดต่อผ่านทางเพศสัมพันธ์ จึงต้องรักษาทั้งคู่ เพื่อป้องกันไม่ให้ติดกันไปมาและเป็นซ้ำได้อีก
- หลีกเลี่ยงน้ำหอมหรือสบู่ที่แต่งกลิ่นน้ำหอม เพราะอาจก่ออาการระคายเคืองบริเวณช่องคลอดและทำให้ติดเชื้อง่าย
- รับประทานโยเกิร์ตและนมเปรี้ยวช่วยปรับสมดุลแบคทีเรียได้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงของการเกิดตกขาวได้
- การติดเชื้อในช่องคลอดและปากมดลูกทำให้ตกขาวผิดปกติระหว่างตั้งครรภ์ อาจเสี่ยงทำให้คลอดก่อนกำหน
ข้อควรแนะนำ หากมีอาการตกขาวมากๆ ควรไปพบแพทย์เพื่อรักษา
ขอบคุณ ที่มาจากเพจ https://www.huggies.co.th/