ติ่งเนื้อในโพรงมดลูก
ติ่งเนื้อในโพรงมดลูก หรือ ติ่งเนื้อเยื่อบุโพรงมดลูก เกิดจากเนื้อเยื่อบุโพรงมดลูกที่เจริญเติบโตมากเกินไป ติ่งเนื้อมีรูปร่างกลมหรือวงรีมีก้านบาง ๆ หรือฐานกว้างยึดติดอยู่กับเยื่อบุมดลูก โดยอาจมีขนาดเล็กเท่าเมล็ดงาหรือใหญ่กว่าลูกกอล์ฟ ผู้ป่วยอาจมีติ่งเนื้อหนึ่งติ่งหรือมากกว่านั้น โดยปกติแล้วติ่งเนื้อในโพรงมดลูกไม่เป็นมะเร็งและไม่ก่อให้เกิดอาการใด ๆ แต่ก็อาจเป็นสาเหตุของประจําเดือนมาผิดปกติและภาวะปัญหาการเจริญพันธุ์ได้
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง
- ระดับฮอร์โมน เช่น ฮอร์โมนเอสโตรเจน ทําให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาขึ้นในช่วงรอบประจําเดือน ซึ่งสัมพันธ์กับติ่งเนื้อในโพรงมดลูกที่โตขึ้น
- อายุที่เพิ่มขึ้นจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดติ่งเนื้อในโพรงมดลูก โดยแนวโน้มที่จะเกิดติ่งเนื้อในโพรงมดลูกนั้นมากขึ้นในผู้ที่ เข้าสู่ระยะเริ่มต้นของวัยหมดประจำเดือนและวัยหมดประจําเดือน
- ภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน
- ความดันโลหิตสูง
- การรับประทานยาทาม็อกซิเฟน (Tamoxifen) ที่ใช้ในการรักษามะเร็งเต้านม
- การรักษาด้วยฮอร์โมนทดแทนโดยการใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจนในปริมาณสูง
- กลุ่มอาการ Lynch syndrome
- กลุ่มอาการ Cowden syndrome
อาการของโรคติ่งเนื้อในมดลูก
- มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดหลังมีเพศสัมพันธ์ เลือดออกนอกช่วงมีประจําเดือน หรือในช่วงวัยหมดประจําเดือน
- ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ
- ประจําเดือนมามาก
- ภาวะมีบุตรยาก
- ปวดท้องหน่วงจากการที่มีติ่งเนื้อขนาดใหญ่ในโพรงมดลูก
- ในบางรายติ่งเนื้อในโพรงมดลูกอาจคล้ายกับรอยโรคของมะเร็งเนื้อเยื่อโพรงบุมดลูกหรือภาวะเยื่อบุมดลูกหนาตัวผิดปกติ
การตรวจวินิจฉัยติ่งเนื้อในมดลูก
- การซักประวัติ แพทย์จะถามเกี่ยวกับรอบเดือน อาการมีเลือดออกทางช่องคลอดหรืออยู่ในวัยหมดประจําเดือนหรือไม่
- การตรวจภายในและการตรวจแปปสเมียร์
- อัลตราซาวด์ทางช่องคลอด
- การฉีดน้ำเกลือในโพรงมดลูกระหว่างการตรวจอัลตราซาวน์ (Saline infusion sonohysterography)
- การส่องกล้องตรวจโพรงมดลูก (Hysteroscopy)
- การตรวจชิ้นเนื้อเยื่อบุโพรงมดลูก (Endometrial biopsy)
- การขูดมดลูก (Curettage)
การรักษาติ่งเนื้อในมดลูก
- การเฝ้าระวัง หากไม่มีอาการอาจไม่จําเป็นต้องรักษาติ่งเนื้อในโพรงมดลูก เนื่องจากติ่งเนื้ออาจหายไปได้เองโดย เฉพาะอย่างยิ่งในรายที่ไม่มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก
- ยา การรับประทานยา เช่น โปรเจสตินและยา GnRH agonist ซึ่งสามารถช่วยบรรเทาอาการที่เกิดจากติ่งเนื้อในโพรงมดลูกได้ แต่อาการอาจเกิดขึ้นอีกหากหยุดยา
- การผ่าตัด เช่น การผ่าตัดส่องกล้องในโพรงมดลูก (Hysteroscopy) เพื่อวินิจฉัยและตัดติ่งเนื้อ แพทย์จะสั่งให้ทำการตรวจทางพยาธิวิทยาติ่งเนื้อในโพรงมดลูกที่ตัดออกมาเพื่อตรวจสอบว่าเป็นมะเร็งหรือไม่ ติ่งเนื้อในโพรงมดลูกประมาณ 5% เป็นมะเร็ง และหากติ่งเนื้อในโพรงมดลูกโตขึ้นอีกจำเป็นต้องได้รับการรักษาซ้ำ