เนื้องอกมดลูกเกิดจากอะไร
โรคนี้ยังไม่สามารถระบุสาเหตุของการเกิดได้อย่างแน่ชัด แต่สามารถสันนิษฐานได้ 3 ประการ ดังนี้
-
เกิดจากกรรมพันธุ์ หากมีคนในครอบครัวเป็นเนื้องอกอาจทำให้มีความเสี่ยงในการเป็นเนื้องอกได้มากยิ่งขึ้น
-
ฮอร์โมน การทำงานของฮอร์โมนเพศหญิงบางประเภท เช่น ฮอร์โมนเอสโตรเจน อาจเป็นตัวเร่งให้เกิดการเจริญเติบโตของเซลล์ เมื่อเซลล์กล้ามเนื้อตอบสนองต่อการทำงานของฮอร์โมนผิดปกติ จึงมีการสร้างเซลล์ที่ผิดปกติไปด้วย
-
การใช้ยา เช่น ยาคุมกำเนิดจะมีฮอร์โมนบางตัวที่อาจเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการเพิ่ม หรือกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์เนื้องอกในมดลูกได้
ชนิดของเนื้องอกมดลูกแบ่งตามตำแหน่งได้ 3 ชนิดดังนี้
1.เนื้องอกที่ผิวของผนังมดลูก เนื้องอกชนิดนี้มักไม่ทำให้ประจำเดือนผิดปกติ แต่ถ้าก้อนโตมากขึ้น อาจเบียดอวัยวะข้างเคียง เช่น ลำไส้ หรือกระเพาะปัสสาวะ หรืออาจมีการบิดที่ขั้วของเนื้องอก ทำให้เกิดอาการปวดท้องรุนแรงได้ 2.เนื้องอกในกล้ามเนื้อมดลูก จะทำให้ประจำเดือนมามากกว่าปกติ ปวดประจำเดือน หรือมีบุตรยาก ความรุนแรงขึ้นอยู่กับขนาดและตำแหน่งของก้อนเนื้องอก 3.เนื้องอกในโพรงมดลูก เนื้องอกชนิดนี้จะทำให้มีบุตรยาก แท้งบุตรง่าย #มีประจำเดือนมาก และนานกว่าปกติ หรือ #ปวดประจำเดือนมาก เนื้องอกมดลูกอาจมีก้อนเดียวหรือหลายก้อนในคนเดียวกัน หรืออาจมีหลายๆ ชนิดปนกันก็ได้ การรักษาเนื้องอกมดลูกนั้น ปัจจุบันยังไม่มียาที่ทำให้เนื้องอกเล็กลงได้อย่างถาวร เมื่อผู้ป่วยมีอาการจากเนื้องอกที่ไม่สามารถบรรเทาได้ด้วยยา การนำเนื้องอกออกด้วยการผ่าตัดจึงเป็นทางเลือกอันดับแรกในการรักษา ปัจจุบันมีนวัตกรรมการผ่าตัดส่องกล้อง แผลมีขนาดเล็กมาก อีกทั้งเทคโนโลยีการแสดงภาพจากกล้อง 4K หรือ 3D ก็จะเป็นตัวช่วยให้แพทย์มองเห็นรอยโรคได้อย่างคมชัด สามารถมองขยายได้มากขึ้น เพื่อผลการผ่าตัดที่ดียิ่งขึ้น ใช้ระยะเวลาพักฟื้นไม่นาน และผู้ป่วยสามารถลุกเดินได้ตั้งแต่วันแรกที่ทำการผ่าตัดอีกด้วย
อาการ
- มีอาการปวดประจำเดือนมากขึ้น
- บางทีไม่มีประจำเดือนแต่ก็รู้สึกปวดท้องคล้ายปวดประจำเดือนอยู่ตลอดเวลา
- อาการประจำเดือนมามากผิดปกติ
- ถ้าเนื้องอกมดลูกมีขนาดใหญ่ อาจจะไปกดทับกระเพาะปัสสาวะ ก็จะทำให้มีอาการปัสสาวะบ่อย
- ถ้าเนื้องอกมดลูกไปกดทับบริเวณลำไส้ตรง ก็อาจทำให้ท้องผูก
การรักษาเนื้องอกมดลูก
-
การรักษาโดยใช้ยา การใช้ยากลุ่มอื่น เช่น การทานยาคุมกำเนิด หรือการฉีดยาคุมกำเนิด สามารถช่วยได้ในเรื่องของการมีประจำเดือนมามาก
-
การรักษาโดยการผ่าตัด การรักษาวิธีนี้แพทย์จะพิจารณาตามความเหมาะสม โดยสามารถใช้ได้ 2 วิธี ดังนี้
-
การส่องกล้องทางโพรงมดลูก (Myomectomy) ใช้รักษาเนื้องอกมดลูกที่อยู่ในโพรงมดลูก โดยจะสอดกล้องผ่านช่องคลอดไปที่ปากมดลูกเข้าสู่โพรงมดลูก และใช้ลวดไฟฟ้าในการตัดเนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูกออก โดยที่ไม่ต้องตัดมดลูกออก เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่ยังต้องการมีบุตร
-
การผ่าตัดนำมดลูกออกไป (Hysterectomy) เป็นวิธีรักษาที่หายขาดเพราะเป็นการตัดมดลูกออกไป ซึ่งมักจะใช้ในกรณีที่เนื้องอกมีขนาดใหญ่ นอกจากนี้อาจใช้กับผู้ป่วยที่อยู่ในวัยใกล้หมดประจำเดือน หรือไม่ต้องการตั้งครรภ์อีก
การป้องกันเพื่อลดความเสี่ยงเนื้องอกมดลูก
-
ตรวจคัดกรอง ควรตรวจร่างกายเป็นประจำทุกปี ซึ่งสามารถตรวจได้แม้จะยังไม่มีอาการ
-
ปรับพฤติกรรม หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรืองดสูบบุหรี่ รวมถึงรับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำ เพราะการรับประทานอาหารที่มีไขมันมากจะทำให้ปริมาณของฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายเพิ่มสูงขึ้น
-
ควบคุมน้ำหนักตัว โรคนี้มักพบกับผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกินจึงควรควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
-
ออกกำลังกายเป็นประจำ หมั่นออกกำลังกายสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง เพราะการออกกำลังกายจะช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนในร่างกายได้
ที่มาเพจ โรงพยาบาลเพชรเวช