หน้าหลัก

ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ

เกล็ดเลือด (platelet) คือ องค์ประกอบของเม็ดเลือดที่สร้างจากไขกระดูก และถูกทำลายที่ม้ามและตับ เกล็ดเลือดไหลเวียนอยู่ในกระแสเลือด มีอายุประมาณ 10 วัน มีหน้าที่ช่วยทำให้เลือดหยุดไหลในกรณีที่มีบาดแผลหรือมีภาวะเลือดออก

เกล็ดเลือดต่ำ คือ ระดับเกล็ดเลือดน้อยกว่า 150,000 เซลล์/ไมโครลิตร แต่อย่างไรก็ตาม หากมีเกล็ดเลือดต่ำ ไม่จำเป็นต้องมีอาการได้ ยกเว้นกรณีที่ต่ำมาก คือ มีระดับเกล็ดเลือดที่น้อยกว่า 30,000 เซลล์/ไมโครลิตร จะเป็นความเสี่ยงที่อาจจะเกิดเลือดออกได้เอง โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีอุบัติเหตุ หรือการกระทบกระแทก

สาเหตุของเกล็ดเลือดต่ำ

1.โรคที่มีความผิดปกติของไขกระดูก ได้แก่

  • กลุ่มโรคไขกระดูกผ่อ ทั้งเป็นตั้งแต่กำเนิด เป็นภายหลัง หรือเป็นในผู้สูงอายุ เกิดจากการสัมผัสสารเคมี ยาฆ่าแมลง หรือติดเชื้อไวรัสบางชนิดกลุ่มโรคที่มีความผิดปกติในไขกระดูก เช่น มะเร็งเม็ดเลือดขาว
  • สาเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้ไขกระดูกสร้างเกล็ดเลือดได้ลดลง เช่น ผลของยาบางชนิดและการติดเชื้อไวรัส

2.เกล็ดเลือดถูกทำลายหรือใช้เกล็ดเลือดมากกว่าปกติ ได้แก่

  • เกล็ดเลือดถูกภูมิคุ้มกันทำลายเมื่อร่างกายติดเชื้อไวรัส หรือได้รับวัคซีน
  • โรคความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน
  • เกล็ดเลือดถูกใช้เพื่อการหยุดเลือดจากการที่มีเลือดออกรุนแรงหรือเมื่อร่างกายเกิดการติดเชื้ออย่างรุนแรง
  • เนื้องอกหลอดเลือดบางชนิด โดยพบก้อนสีแดงช้ำร่วมด้วย

หากเกล็ดเลือดต่ำควรทำอย่างไร?

ควรรีบมาปรึกษาแพทย์ แพทย์จะทำการซักประวัติ ตรวจร่างกาย และตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติม เพื่อยืนยันสาเหตุเกร็ดเลือดต่ำว่าเกิดจากอะไร เพื่อให้การรักษาตรงตามสาเหตุนั้น ๆ ต่อไป ภาวะเกล็ดเลือดต่ำจะไม่อันตรายถึงชีวิต หากรู้เท่าทัน เข้ารับการรักษา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่าง เคร่งครัด

การตรวจและวินิจฉัย

การตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (complete blood count: CBC) รูปร่าง ขนาดของเกล็ดเลือด รวมถึงอาการแสดงอื่นที่บ่งบอกถึงภาวะเกล็ดเลือดต่ำ

แนวทางปฏิบัติตัวเมื่อเกิดภาวะเกร็ดเลือดต่ำ

  • ใช้แปรงสีฟันที่มีขนแปรงอ่อนนุ่ม ห้ามใช้ไหมขัดฟัน
  • หลีกเลี่ยงการทำฟันหรือผ่าตัดอื่นๆ หากยังไม่ได้ปรึกษาแพทย์ผู้ดูแล
  • ห้ามยกของหนัก เล่นกีฬาที่ต้องใช้แรงหรือการกระแทก
  • ห้ามเดินเท้าเปล่าเพราะอาจเกิดบาดแผลจากการถูกทิ่มตำ
  • หากมีปัญหาในการทรงตัวต้องมีผู้ช่วยเหลือในขณะที่เดิน
  • งดการตัดเล็บ การโกนหนวดโดยการใช้ใบมีด ให้ใช้มีดโกนไฟฟ้าแทน
  • หลีกเลี่ยงการใช้ของมีคมที่อาจเกิดอุบัติเหตุจากการทิ่มตำ เช่น กรรไกร มีด
  • หลีกเลี่ยงการสั่งน้ำมูกหรือจามแรงๆ
  • หลีกเลี่ยงภาวะท้องผูก ดื่มน้ำให้มากๆ

กรณีเกล็ดเลือดต่ำกว่า 20,000 เกล็ด/ไมโครลิตร

  • ให้นอนพักบนเตียงและต้องทำกิจกรรมโดยมีผู้ดูแล และแพทย์อาจพิจารณาให้เกล็ดเลือดทดแทน
  • งดแปรงฟัน
  • ห้ามเบ่งอุจจาระ ไอหรือจามแรงๆ