หน้าหลัก

วิธีการเลือกที่นอนเด็กแรกเกิด

เด็กแรกเกิดเป็นวัยที่ต้องให้ความสำคัญกับการนอนหลับพักผ่อนเป็นอันดับหนึ่ง เพราะการนอนเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อการสร้างเซลล์สมองพัฒนาการรวมถึงการเจริญเติบโต ซึ่งสิ่งที่จะช่วยให้การนอนของพวกเขามีคุณภาพก็คือ ที่นอนที่ดีมีคุณภาพ ในปัจจุบัน ที่นอนเด็กแรกเกิดนั้นถูกดีไซน์ออกมาหลากหลายรูปแบบและมีจำหน่ายมากมายตามท้องตลาด เพื่อรองรับน้ำหนักและสรีระของเด็กที่มีความแตกต่างกัน

วิธีการเลือกที่นอนเด็กแรกเกิด ควรพิจารณาดังนี้

  1. เลือกที่นอนเด็กแรกเกิดตามลักษณะของที่นอน

ที่นอนเด็กนั้นมีหลายรูปแบบทั้งรูปทรงไข่ เบาะราบ เบาะเอนได้ หรืออาจจะแบ่งตามชนิดวัสดุที่ใช้ผลิต เช่น ที่นอนเมมโมรี่โฟม ยางพารา เป็นต้น หลักการเลือกที่นอนนั้นควรคำนึงถึงสรีระและพัฒนาการของทารกในแต่ละวัย หากอายุไม่เกิน 4 เดือน ควรเลือกเบาะที่ไม่นุ่มยวบมากเกิน เนื่องจากคอทารกที่ยังไม่แข็งแรงนั้นอาจพับงอ ส่งผลให้ท่อลมคอตีบแคบได้ หากทารกพลิกตัว ขอบที่นูนขึ้นมาข้างศีรษะอาจกดใบหน้า จนขาดออกซิเจนและอาจเสียชีวิตได้ สัดส่วนขนาดศีรษะทารกจะใหญ่เมื่อเทียบกับลำตัว หากเลือกที่นอนชนิดเอนหรือชนิดแผ่นรองศีรษะและหลังชันสูง ศีรษะจะถูกดันมาด้านหน้าส่งผลให้คอก้มพับและทางเดินหายใจจึงอาจถูกกดเช่นกัน นอกจากนี้ ยังควรคำนึงถึงความสามารถในการระบายอากาศและการป้องกันไรฝุ่นของที่นอน เพื่อลดการอับชื้นและการเกิดผื่นแพ้ด้วยครับ

  1. เลือกที่นอนเด็กแรกเกิดที่ไม่แข็งหรือไม่นิ่มเกินไป

ที่นอนที่แข็งมากเกินไปจะส่งผลให้ทารกปวดเมื่อยตัว นอนหลับไม่สบาย และอาจสะดุ้งตื่นจากอาการปวดตัวหรือแขนชาได้ แต่หากเลือกที่นอนที่นิ่มมากเกินไป นอกจากปัญหาการอุดกั้นทางเดินหายใจจากคอที่พับงอหรือการกดทับใบหน้าจากเบาะรอบศีรษะที่ยกนูนแล้ว ยังอาจเกิดปัญหาปวดเมื่อยจากน้ำหนักที่ทิ้งลงกลางลำตัวเพียงจุดเดียวจากท่านอนที่โค้งคล้ายตัว “U” ในเบาะที่นิ่มเกิน จึงแนะนำให้เลือกวัสดุที่ทารกนอนแล้วสรีระราบตรง อ่อนนุ่มในระดับปานกลาง เช่น วัสดุยางพารา เมมโมรี่โฟม หรือเส้นใยที่หนาแน่นในระดับที่เหมาะสม เพื่อการพักผ่อนที่มีประสิทธิภาพ

  1. ตรวจสอบที่นอนเด็กแรกเกิดให้พอดีกับน้ำหนักตัวและสรีระของเด็ก

ตามหลักการพัฒนาของกล้ามเนื้อมัดใหญ่ของทารกนั้น เด็กที่อายุน้อยกว่า 4 เดือน จะยังไม่สามารถพลิกคว่ำตัวได้ ดังนั้นขนาดที่นอนจึงไม่จำเป็นต้องมีเนื้อที่ใหญ่เกินเพื่อรองรับการพลิกตัวหรือคลาน ขอแนะนำให้ผู้ปกครองเลือกเบาะที่มีความหนาแน่นเหมาะกับน้ำหนักทารก ไม่แข็งหรือนิ่มจนเกินไป และไม่บางจนสามารถสัมผัสพื้นใต้เบาะได้ เพราะทารกอาจปวดเมื่อย ดังนั้นจึงควรคำนึงถึงความกว้าง ความยาว ความหนา ความหนาแน่น น้ำหนักเบาะ และวัสดุที่เหมาะสมครับ